กรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เป็น “เรื่องเด่น” “เรื่องดัง” ไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยตลอดปี พ.ศ. 2563 ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของสัจธรรมข้อนี้ ดังตัวอย่าง ที่ชัดเจน คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่เจริญ ก้าวหน้ามากที่สุด ทั้งทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และเศรษฐกิจ แต่กลับกลายเป็นประเทศ ที่โรคแพร่ระบาดรุนแรง จนมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด และเสียชีวิตมากที่สุด ก็เพราะมีผู้นำที่มีมิจฉาทิฐิ และ เดินหน้าแก้ปัญหาด้วยนโยบายที่เป็นมิจฉาทิฐิ ขณะที่ ประเทศไทย ซึ่งฐานะทางเศรษฐกิจยังคง “ติดกับดัก รายได้ปานกลาง” และการเมืองการปกครองของประเทศ ยังคงตกอยู่ในวังวนแห่ง “วงจรอุบาทว์” (vicious cycle) สลับไปมาระหว่างระบอบเผด็จการกับประชาธิปไตย สามานย์ แต่เราก็สามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคในรอบที่หนึ่งได้ดีจนเป็นที่ยอมรับและ ยกย่องอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก และแม้การเมืองการปกครองจะ อ่อนแอและเศรษฐกิจไม่เข้มแข็ง แต่เราสามารถฟื้นตัวจาก ผลกระทบรุนแรงของโควิด-19 ได้อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก จนเกือบตลอดปี พ.ศ. 2563 อย่างไรก็ดี ความอ่อนแอของระบบการเมืองการปกครองก็ทำให้เกิด การระบาดรอบใหม่ขึ้นตอนช่วงปลายปี