กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศห้ามการผลิตนำเข้า และจำหน่ายไขมันทรานส์ (Trans fatty acids) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยประกาศ สธ. เลขที่ 388 พ.ศ. 2561 “เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ซึ่งกำหนดให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบเป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย” ได้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2562 โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท การออกประกาศฉบับดังกล่าวทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่สั่งห้ามไขมันทรานส์งานวิจัยบ่งชี้ว่า “ไขมันทรานส์” จะเพิ่ม “ความเสี่ยง” ของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังส่งผลต่อน้ำหนักและไขมันส่วนเกิน เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดอีกด้วย อาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์ ได้แก่ เนยเทียมหรือมาการีน เนยขาว ครีมเทียมหรือ คอฟฟีเมต นมข้นหวาน นมข้นจืด วิปปิ้งครีม ขนมที่ผลิตปริมาณมากๆ จากโรงงาน ของทอดต่างๆ รวมถึงเบเกอรี ที่ใช้เนยเทียมในการอบ รวมถึงอาหารสำเร็จรูป เช่น ขนมปังกรอบ แครกเกอร์ อาหารจากโรงงาน ขนมถุง และฟาสต์ฟู้ด ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมอาหารเพื่อเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย เพื่อสร้างความเข้าใจและสามารถปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมจัดทำคู่มือเพื่อให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันทรานส์อย่างถูกต้อง