นับตั้งแต่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 (สายพันธุ์ H1N1) ในประเทศเม็กซิโก เมื่อเดือนมีนาคม 2552 จนมาถึงปัจจุบัน (มีนาคม 2553) เชื้อไข้หวัดใหญ่ได้แพร่กระจายทั่วทุกมุมโลกกว่า 200 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อนี้ แล้วอย่างน้อย 16,000 คน ความน่ากลัวอยู่ที่ว่าเมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายมนุษย์แล้ว จะเข้าไปทำลายปอด สมอง และระบบทางเดินหายใจ และสามารถไปติดกับบุคคลใกล้ชิดทันที หากไม่มีการป้องการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เพราะมนุษย์ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไปไวรัสชนิดนี้มาก่อน ดังนั้น วัคซีนป้องกันไวรัส จึงเป็นคำตอบสำคัญในในการควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หากมีการแพร่ระบาดอีกหลายระลอกโดยที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้
ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดอยู่นี้ ไทยเราเองก็กำลังสร้างโรงงานวัคซีนขนาดใหญ่ 2 แห่ง เพื่อรองรับการผลิตวัคซีนป้องกันโรคระบาดสำหรับคนไทยทั้งประเทศ และที่เป็นความภาคภูมิใจของการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยที่ทัดเทียมในระดับสากลคือ เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ขึ้นมาได้ทั้งจากเชื้อตาย และเชื้อเป็นได้แล้ว ซึ่งผลการทดลองอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และนับจากนี้ไปทีมนักวิจัยจะพัฒนาต่อยอดการค้นคว้าให้ผลออกมาใช้กับคนได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่จะเข้าสู่โรงงานผลิตเพื่อใช้ในประเทศ
ผลงานแห่งความสำเร็จของการสาธารณสุขไทยครั้งนี้ เป็นเครื่องรับประกันได้ว่า หากมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไปทั่วโลก ไทยจะมีวัคซียนใช้ได้ทันท่วงที โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ